“ฮอนด้า” คุณแม่สุดสตรอง เข็นลูกแฝดวิ่งมาราธอน 42 กม.สำเร็จจนจบ

[Sassy_Social_Share]

“ฮอนด้า” คุณแม่สุดสตรอง เข็นลูกแฝดวิ่งมาราธอน 42 กม.สำเร็จจนจบ หลังปีที่แล้วทำไม่สำเร็จ เผยก่อนหน้ากลัวการมีลูกจะทำไลฟ์สไตล์เปลี่ยน

จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก mama.honda ได้โพสต์คลิปวิดีโอเข็นลูกแฝด วิ่งมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม. จนสำเร็จ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เด็กๆจะได้ก้าวข้ามผ่านเส้นชัยนี้ไปโดยไม่ต้องวิ่งเอง พร้อมระบุแคปชั่นว่า “ทำได้แล้วนะ ในที่สุด! ไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่า อะไรก็เป็นไปได้”

วันที่ 4 ธ.ค.67 คุณฮอนด้า เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ได้เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า ก่อนหน้าที่ตนจะมีลูก ตนเป็นผู้หญิงที่ชอบเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมอยู่แล้ว ทั้งวิ่งมาราธอน ไตรกีฬา ฟูลไอรอนแมน เคยวิ่ง 100 กม. ด้วยความที่ตนอยากมีลูกมาก ไปหาคุณหมอทำ IVF แต่พอท้องได้ 9 เดือน อยู่ดีๆตนก็กลับรู้สึกกลัวและไม่อยากมีลูกขึ้นมา

“รู้สึกว่าชีวิตตนดีอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาตัวแปรอีกอันนึงเข้ามาในชีวิตด้วย อีกทั้งการมีลูกคือ Irreversible Process พอเขาคลอดมาแล้วจะยัดกลับเข้าไปก็ไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้ววันที่ลูกเกิดออกมา ความเป็นแม่ก็เกิดขึ้นวันนั้นจริงๆ”

ตนเลยรู้สึกว่าถ้าตนเคยใช้ชีวิตแบบไหน เคยมีความสุขอย่างไร ก็อยากพาลูกไปด้วย ให้เขาได้เห็นโลกในแบบที่ตนเห็น ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าเรามีความตั้งใจ อะไรมันก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ตนรู้สึกว่าคงไม่แฟร์ ถ้าตนคาดหวังอยากให้ลูกเป็นอย่างนู้นอย่างนี้แต่พ่อแม่ยังทำไม่ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตนลุกขึ้นมาเข็นลูกแฝด 2 คนวิ่งมาราธอนดู

การวิ่งงาน Amazing Thialand Marathon Bagnkok 2024 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนเข็นลูกวิ่งมาราธอนด้วย ตั้งแต่ลูกเกิดมา ตนก็ไปเข้าร่วมวิ่งมาธาราธอนของ Amazing Thailand ครบทั้ง 4 ครั้ง โดยเริ่มจากระยะ 10 กม. แล้วค่อยๆเพิ่มระยะทางมาเรื่อยๆ ปีที่แล้ว วิ่งไปได้ 30 กม. ด้วยความที่อากาศร้อน ทั้งลูกและตนก็เริ่มเหนื่อยแล้ว

ปีนี้จึงกลับมาใหม่และวิ่งจนครบมาราธอน 42.195 กม.เริ่มวิ่งตั้งแต่ตีสอง วิ่งเสร็จประมาณ เกือบ 7.00 น. วิ่งไปทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง 10 นาที ตอนวิ่งจบมาราธอน ตนก็รู้สึกดีใจมาก อีกทั้งยังมีสามีของตนหรือคุณพ่อของลูกๆมาร่วมวิ่งในครั้งนี้ด้วย แม้สามีจะไม่ได้ซ้อมวิ่งมาเลย แต่เขาก็พยายามสู้สุดฤทธิ์ วิ่งตามตนมาให้ทัน พอจบมาราธอน จึงคิดท่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน ออกมาเป็นภาพสามีขี่หลังตนพร้อมกับตนที่เข็นรถเข็นลูกแฝดไปด้วย

โดยลูกๆทั้งสองของตนก็ชอบมาก ด้วยความที่ปกติเด็กๆจะนอนยาก แต่พอเอาลงเปลหรือรถเข็นแปปเดียว เด็กๆก็หลับสนิทเลย ตนจึงวิ่งไปเข็นลูกไป ลูกก็นอนหลับสบายตากลม ถนนที่วิ่งก็เป็นถนนที่ปิดทำให้สะดวกสบายในการวิ่งไปด้วยเข็นรถเข็นไปด้วย แม้จะมีความยากตรงที่ตนต้องเข็นน้ำหนักของเด็ก 2 คน ประมาณ 30 กก. รวมกับรถเข็นและของที่เตรียมมาเผื่อลูกหิวไปอีกเป็น 50 กก.

ทั้งนี้ตนมองย้อนกลับไปก่อนลูกเกิด ก็ขำตัวเองว่าตอนนั้นจะร้องไห้กลัวไปทำไม พอมีลูกแล้ว พาลูกไปนู่นนี่กับเรา มันยิ่งสนุกกว่าเดิม ทำให้เรามีพลังมากกว่าเดิมอีกเยอะมากๆเลย จึงอยากฝากทิ้งท้ายถึงคุณแม่ทุกๆคนว่า ถ้าอะไรที่เราทำแล้วมีความสุขก็ทำเลย เพราะถ้าเรามีความสุข ลูกของเราก็จะมีความสุขด้วยเช่นกัน… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9535489

Comment

แนะนำสำหรับคุณ